มาทำความรู้จักกับกล่องบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆกัน
จากสถานการณ์ยุคปัจจุบันที่การขายของออนไลน์กลายมาเป็นช่องทางหลักของการค้าขาย การใช้งานกล่องบรรจุภัณฑ์ (Folding Carton) จึงถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการบรรจุสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร รวมไปจนถึงสินค้าแฟชั่นอย่าง เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ไม่เพียงสินค้าที่มีหลายหลายประเภทแตกต่างกัน ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์เอง ก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะการใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนั้นโพสต์นี้ทางโรงพิมพ์ Royal Press จะมาแนะนำเพื่อนๆถึงกล่องบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมี่ยมในรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งข้อดีและรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมกัน
นอกเหนือไปจากตัวสินค้า กล่องบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ที่ถูกออกแบบและผลิตมาอย่างปราณึต ก็ยังสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้า และการรับรู้แบรนด์ ได้ในอีกทางนึงด้วย
1. กล่องฝาเสียบ
ตัวอย่างงานกล่องฝาเสียบที่จัดทำโดย RPP
กล่องรูปแบบนี้จะเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์แบบที่เราพบเห็นกันบ่อยที่สุด โดยด้านบนและด้านล่างของกล่องจะมีฝาเปิดได้ ที่ใช้รูปแบบล็อคกันโดยมีลิ้นเสียบด้านข้างซ้าย-ขวา โดยจะแยกย่อยได้อีก 2 ประเภทคือ
1.1 กล่องฝาเสียบบน-ล่าง
1.2 กล่องฝาเสียบบน-ล่าง (สลับข้าง)
กล่องทั้ง 2 แบบนี้มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกัน เพียงแต่ต่างกันที่ฝาเสียบด้านล่างในแบบ 1.2 จะสลับข้างกับด้านบน โดยกล่องในแบบที่ 1 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- เหมาะกับสินค้าน้ำหนักเบาถึงปานกลาง
- ไม่ต้องมีงานประกอบใดๆเพิ่มเติมหลังพิมพ์
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
- ล็อคปิดได้ดีด้วยระบบลิ้นเสียบ
2. กล่องฝาเสียบบน-ก้นขัดล่าง
กล่องในลักษณะนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการใช้งานเรื่องของการรับน้ำหนักโดยเฉพาะ และตัวฝาปิดล่างจะไม่เปิดหรืออ้าออกแม้ว่าสิ่งของข้างในจะมีน้ำหนักมาก ส่วนฝาบนจะมีรูปแบบคล้ายกับแบบแรก โดยกล่องในแบบที่ 2 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- เหมาะกับสินค้าน้ำหนักมาก
- ต้องมีการประกอบฝาล่างเพิ่มเติมเล็กน้อย
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
- วางซ้อนกันได้ดี เพราะฝาล่างปิดแล้วจะเรียบสนิท
3. กล่องฝาเสียบบน-ก้นเกี่ยวปะกาว
กล่องแบบที่ 3 นี้ก็จะเป็นกล่องอีกแบบที่เหมาะสำหรับการรับน้ำหนักสินค้า เช่นเดียวกับแบบที่ 2 โดยกล่องในแบบที่ 3 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- เหมาะที่สุดกับสินค้าน้ำหนักมาก
- ต้องมีการใช้กาวปะ เพื่อเสริมให้ตัวฝาด้านล่างรับน้ำหนักได้ดี
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
- วางซ้อนกันได้ดี เพราะฝาล่างปิดแล้วจะเรียบสนิท
4. กล่องฝาเปิดบน
ตัวอย่างงานกล่องฝาเปิดบนที่จัดทำโดย RPP
กล่องแบบนี้นิยมใช้มากในการบรรจุขนม, อาหาร เป็นรูปแบบกล่องที่แข็งแรง ทนทาน เพราะมีการเสริมฝาด้านข้างทั้ง 2 ข้าง สำหรับตัวฝาเปิดด้านบนนั้นจะใช้การล็อคแบบลิ้นเสียบกับฝาด้านข้าง โดยกล่องในแบบที่ 4 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- ใช้งานได้หลากหลาย
- กล่องมีความคงทน
- เหมาะกับการใส่สินค้าโชว์หลายชนิดภายในกล่อง
- ประกอบง่าย
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
5. กล่องฝาสวมบน
กล่องรูปแบบนี้จะมาแบบแยกชิ้น โดยมีฝาเปิดเป็นชิ้นบน และตัวถาดกล่องเป็นชิ้นล่าง ซึ่งมักจะใช้งานกับสินค้าที่ต้องการความหรูหราเป็นพิเศษ โดยกล่องในแบบที่ 5 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- ใช้งานได้หลากหลาย
- ตัวฝาบนและถาดกล่อง สามารถแยกชิ้นเพื่อไว้โชว์โลโก้ หรือ ลวดลายต่างๆที่พิมพ์ได้
- กล่องมีความคงทน
- เหมาะกับการใส่สินค้าโชว์หลายชนิดภายในกล่อง
- ประกอบง่าย
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
- สามารถใช้งานร่วมกับงานฝาสอดได้
6. กล่องปลอกสวม (พร้อมถาดกล่อง)
ตัวอย่างงานกล่องปลอกสวมที่จัดทำโดย RPP
กล่องปลอกสวมเป็นอีก 1 รูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่ได้นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเราสามารถปรับรูปแบบการใช้งานตามโปรโมชั่น หรือ ซีซั่นได้ โดยเปลี่ยนเพียงลวดลายพิมพ์บนปลอกตามความต้องการ ส่วนตัวถาดกล่องสามารถนำรูปแบบเดิมมาใช้ซ้ำได้ เพื่อประหยัดต้นทุนในการผลิตใหม่ โดยกล่องในแบบที่ 6 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- เพิ่มความสวยงามให้กล่องได้โดยง่าย
- เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบบ่อย
- เปิด- ปิดกล่องง่าย ด้วยการสไลด์ฝาสอด
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
- ราคาถูก ถ้าเน้นพิมพ์ที่บริเวณปลอกอย่างเดียว
7. กล่องตั้งโชว์สินค้า
ตัวอย่างงานกล่องโชว์สินค้าที่จัดทำโดย RPP
ตัวกล่องโชว์สินค้าแบบนี้ จะทำหน้าที่ได้ทั้ง 2 แบบ คือทั้งบรรจุสินค้า และ โชว์สินค้า โดยที่ตัวฝากล่องเมื่อเปิดออกจะสามารถตั้งออกมาเป็นแถบโปรโมทสินค้าได้ โดยกล่องในแบบที่ 7 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- ใช้ประโยชน์ได้ทั้งจากการบรรจุและโชว์สินค้า
- เหมาะสำหรับสินค้าขนาดเล็กที่ซื้อแยกชิ้นได้
- ประกอบง่าย
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
8. กล่องแขวนโชว์สินค้า
กล่องในรูปแบบที่ 8 จะคล้ายๆกับในแบบที่ 7 เพราะทำหน้าที่ทั้งบรรจุสินค้า และ โชว์สินค้า เหมือนกัน เพียงแต่กล่องรูปแบบนี้จะมีการเจาะรูบริเวณแขวนบนแถบด้านบนไว้ เพื่อให้สะดวกต่อการแขวนตามชั้นในร้านค้าต่างๆ โดยกล่องในแบบที่ 8 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- เหมาะกับสินค้าน้ำหนักเบา
- ประกอบง่าย
- เก็บรักษาง่าย (เพราะสามารถพับให้แบนเรียบได้)
9. กล่องรูปแบบพิเศษอื่นๆ
ตัวอย่างงานกล่องรูปแบบพิเศษที่จัดทำโดย RPP
สำหรับเพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจจะมีไอเดียที่คิดต่อยอดได้มากกว่ากล่องทั้ง 8 แบบด้านบนที่เป็นมาตรฐาน เรายังมีกล่องรูปแบบพิเศษอื่นๆที่อยากแนะนำให้เห็นกัน ซึ่งกล่องทรงสวยๆแบบนี้ บางแบบนอกจากจะสามารถใช้บรรจุสินค้าได้แล้ว ยังสามารถเอามาตั้งโชว์เป็นเหมือนของตกแต่งบ้านกันได้เลย โดยกล่องในแบบที่ 9 จะมีข้อดีและลักษณะการใช้งานดังนี้
- รูปแบบไม่ซ้ำใคร
- โดดเด่น จดจำง่าย
- การเก็บรักษาและประกอบ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของกล่องนั้นๆ
- ราคาแตกต่างตามความอยากง่ายของแบบไดคัท และ ลวดลายบนกล่อง
หลังจากที่รู้จักรูปแบบกล่องบรรจุภัณฑ์กันไปหมดแล้ว เพื่อนๆสามารถอ่านเรื่อง ในโรงพิมพ์ มีกระดาษอะไรให้เลือกบ้าง? ควบคู่กันไปด้วย เพราะการเลือกใช้ทั้งรูปแบบบรรจุภัณฑ์และประเภทกระดาษ จะมีผลต่อการออกแบบและราคาอย่างมากทีเดียวเลย
RPP Team