SHARE

Packaging คือรักแรกพบระหว่างสินค้ากับผู้บริโภค

ในยุคที่ผู้คนต่างให้ความสนใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เน้นไปในเรื่องของการประหยัดทรัพยากร หรือการใช้วัสดุย่อยสลายง่ายอย่างกระดาษ มาเป็นวัสดุหลักในการผลิต Packaging จึงเป็นสิ่งที่ทั้งเจ้าของแบรนด์และผู้บริโภคเองให้ความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ซึ่งต่างจากบรรจุภัณฑ์แบบดั้งเดิมมักเน้นไปที่ความคงทน ประโยชน์ใช้สอย แล้วค่อยตามมาด้วยรายละเอียดของสินค้า สรรพคุณ หรือ โลโก้ของสินค้านั้นๆ ทำให้วัสดุส่วนมากที่ใช้เป็นวัสดุที่แข็งแรงจำพวกพลาสติกต่างๆ เพราะจุดประสงค์ในการใช้งานส่วนมาก มักเน้นที่ความสะดวกสบาย และต้นทุนที่จำกัด เป็นหลัก

Packaging แบบดั้งเดิมประเภทพลาสติก ที่สร้างปัญหากับสิ่งแวดล้อมโดยตรง และเริ่มถูกแบนจากหลายประเทศในยุโรป

นอกจากจะย่อยสลายยากและสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว พลาสติกยังมีรูปแบบที่จำกัดในแง่ของการผลิตอีกด้วย

เมื่องาน Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ ถูกให้คุณค่ามากขึ้น (เนื่องจากปัญหาเรื่องโลกร้อน รวมไปถึงปัญหาการกำจัดขยะที่ย่อยสลายยากต่างๆ) ทำให้บรรจุภัณฑ์แบบกระดาษกลายมาเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ทำให้ทั้งเจ้าของสินค้า, ผู้ออกแบบ และผู้ผลิตในยุคนี้ ต้องหันมาทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาให้บรรจุภัณฑ์ของตัวเอง มีความโดดเด่นและสวยสะดุดตาไม่แพ้ตัวสินค้าที่อยู่ภายใน ซึ่งก็ทำให้ตัว Packaging เอง ได้อานิสงส์จากการบอกเล่าภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้นๆ ผ่านตัวรูปแบบ Packaging ไปในตัวด้วย

Packaging  ที่ใช้กระดาษเป็นวัสดุหลัก สามารถออกแบบทั้งรูปแบบไดคัท การใช้งาน และลวดลาย ได้หลากหลายในปัจจุบัน

นอกจากบรรจุภัณฑ์จะถูกใส่ใจในด้านการเลือกใช้วัสดุและรูปแบบมากขึ้นแล้ว เจ้าของสินค้าหรือตัวแบรนด์เอง ก็มักจะพยายามเพิ่มประโยชน์ใช้สอยอื่นๆเข้าไปเพิ่มให้ตัว Packaging ดูน่าสนใจขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น กล่องผลิตภัณฑ์เด็กเล็ก ก็มักจะมีลูกเล่นบนกล่องดึงดูดความสนใจให้เด็กมาเล่นเพื่อเรียนรู้หรือเพิ่มทักษะพัฒนาการได้ หรือ กล่องสินค้าประเภทที่เหมาะเป็นของขวัญในช่วงเทศกาล ก็จะมีพื้นที่ให้กับผู้ซื้อเขียนคำอวยพรให้ผู้รับได้ เป็นต้น

ประโยชน์ใช้สอยเพิ่มเติมนอกเหนือจากการออกแบบ Packaging เดิมๆ ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้มากขึ้น

จากงานวิจัยต่างๆผ่านทาง website ต่างประเทศหลายแห่งก็ยืนยันตรงกันว่า เจ้าของแบรนด์ที่มุ่งเน้นการทำ Packaging สามารถเพิ่มยอดขายได้กว่าปกติถึง 30% ซึ่งก็สอดคล้องกับทางฝั่งผู้บริโภคกว่า 66% ที่ยืนยันว่า พวกเขาเลือกซื้อสินค้าใหม่ๆจากตัว Packaging ที่น่าสนใจบนชั้นสินค้า และจากการที่ทุกฝ่ายหันมาสนใจเรื่อง Packaging มากขึ้นนี่เอง ที่ทำให้พวกเรา Royalpress ได้ข้อสรุปว่า “Packaging คือรักแรกพบระหว่างสินค้าและผู้บริโภค” เพราะแน่นอนว่า เมื่อผู้บริโภคยืนอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เต็มไปด้วยดงสินค้ามากมายบนชั้น Packaging ที่โดดเด่นที่สุดเท่านั้น ที่จะดึงดูดตาและเชื้อเชิญให้ผู้บริโภคได้ลองเลือกหยิบจับ ก่อนจะหย่อนใส่ตะกร้าเพื่อซื้อกลับบ้านไปราวกับเป็น รักแรกพบ นั่นเอง

ข้อมูลจาก www.customboxesmarket.com ที่ยืนยันถึงความสำคัญของงาน Packaging

 

รักแรกพบของสินค้ากับผู้บริโภคสินค้า ที่มี Packaging เป็นสื่อกลาง

และสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่จะหา Packaging แบบพรีเมียมมาเพิ่มยอดขาย  ทางบริษัท Royalpress เชื่อมั่นว่า การที่เราใส่ใจในเรื่องของ Packaging ตั้งแต่ในขั้นตอนออกแบบ และใช้เวลาในการพัฒนาแบบอย่างพิถิพิถัน จนเป็นที่พอใจของเจ้าของแบรนด์ เมื่อไอเดียเหล่านั้นได้ถูกส่งต่อเข้าแท่นพิมพ์ เพื่อเริ่มผลิตจากระบบเครื่องที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ผ่านการควบคุมโดยช่างพิมพ์ผู้มีประสบการณ์ เมื่อนั้นตัวชิ้นงาน Packaging สุดท้ายที่เสร็จออกมาเพื่อบรรจุสินค้าต่างๆ ก็จะเป็น Packaging ที่ตรงใจกับทั้งเจ้าของแบรนด์ และ ผู้บริโภค ที่สุด

เพราะเราเชื่อว่า ตัวสินค้า เรื่องราวของbrand และ packaging คือสิ่งๆเดียวกันในท้ายที่สุด

หากสนใจปรึกษาสอบถามและติดต่อทำ Packaging กับพวกเรา สามารถอ่านขั้นตอนทำงานของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้

     
                 
     
logo