เปรียบเทียบรายละเอียดงานพิมพ์ Digital และ Offset ที่คุณควรรู้
จากบทความที่แล้ว พิมพ์ Digital กับ Offset ต่างกันอย่างไร ซึ่งทีมงาน Royalpress ได้เล่าถึงความต่างของการพิมพ์ทั้ง 2 ระบบไปแล้ว โพสต์นี้พวกเราเลยอยากจะมาเปรียบเทียบรายละเอียดงานพิมพ์ของทั้ง 2 ระบบกันแบบลงลึกกัน
1. ลักษณะผิวหมึก หมึกพิมพ์ของระบบ Digital เป็น Dry Toner พิมพ์แล้วหมึกจะดูลอยเกาะบนผิวกระดาษ แม้ว่าจะพิมพ์ลงบนกระดาษเคลือบผิว (coated paper) หรือไม่เคลือบผิว (uncoated paper) ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดูค่อนข้างมันเงา ต่างจากหมึกพิมพ์ระบบoffset ที่เป็น Oil-Based เนื้อหมึกจะซึมหรือเกาะตัวบนผิวกระดาษได้ต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดกระดาษ หากเป็นuncoated paper หมึกจะซึมลงบนผิวกระดาษส่วนหนึ่ง ทำให้สีสันที่ได้อาจจะดูดรอปลง แต่จะสามารถโชว์ผิวสัมผัสของเนื้อกระดาษได้ดี ต่างจากกระดาษ coated paper ซึ่งหมึกจะแห้งและเกาะตัวบนพื้นกระดาษ สีสันจะสดใสกว่า
ลักษณะสีของงานพิมพ์ Digital จะให้ความันเงา เมื่อเทียบกับการพิมพ์ในระบบ Offset
2.ความคงทนของหมึก งานพิมพ์ Digital มีข้อจำกัดด้านความคงทน เนื่องจากหมึกเกาะอยู่บนผิวกระดาษ ทำให้ยึดเกาะไม่ถึงเนื้อกระดาษที่มีผิวขรุขระ และไม่ทนต่อสารระเหยและอาจเสียหายได้ง่ายในกระบวนการหลังพิมพ์ ในทางกลับกัน งานพิมพ์ Offset มีความคงทนสูงกว่า เพราะหมึกซึมเข้าไปในเนื้อกระดาษ ทำให้สียึดติดได้ในทุกพื้นผิวกระดาษ และทนต่อสารระเหยและการจัดการหลังพิมพ์ได้ดีกว่า
ตัวอย่างงานเทียบหลังนำงานไปตีเส้นพับ สังเกตได้ว่าเส้นพับจะมีรอยแตกจากการพิมพ์ Digital แต่การพิมพ์ Offset จะได้เส้นที่เรียบเนียน
งานพิมพ์ Digital สีมักจะไม่ซึมเกาะเข้าเนื้อผิวกระดาษที่มี Textured ขรุขระ ทำให้อาจจะเห็นจุดขาวและไม่เรียบเนียน แต่ถ้าเลือกกระดาษเนื้อที่ไม่ขรุขระมาก ก็ยังสามารถพิมพ์ได้ใกล้เคียง Offset พอสมควร
3. คุณภาพงานพิมพ์สีพื้น ในการพิมพ์สีพื้นแบบ Digital อาจพบปัญหาการเกิดริ้วสีได้ ซึ่งอาจเป็นข้อเสียในงานที่ต้องการความสม่ำเสมอของสีพื้น ส่วนการพิมพ์ Offset สามารถให้สีพื้นที่แน่นและไม่มีริ้ว ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสมบูรณ์แบบของสีพื้น
สีพื้นจากการพิมพ์ Digital จะเห็นริ้วสีชัดเจนและมีความไม่สม่ำเสมอของเม็ดสี แต่ในการพิมพ์ Offset เม็ดสีจะแน่นและไม่เกิดริ้วสีบนงาน
4. คุณภาพงานพิมพ์ 4 สี ในงานพิมพ์ 4 สี การพิมพ์ Digital มีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วสีน้อยกว่าการพิมพ์สีพื้น แต่ก็ยังอาจพบได้ในบางจุด ส่วนการพิมพ์ Offset ให้ผลลัพธ์ที่แน่นและไม่มีริ้วสีในทุกส่วนของภาพ
งานพิมพ์ Digital ในรูปแบบ 4 สี จะสามารถพิมพ์ออกมาได้ในระดับที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับการพิมพ์สีพื้นสีเดียว
5. ความแม่นยำของฉากงานพิมพ์ การพิมพ์ Digital อาจมีปัญหาเรื่องการยืดหรือหดตัวของวัสดุ ส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนในงานหลังพิมพ์ เช่น การปั๊มนูนหรือปั๊มฟอยล์ ในขณะที่การพิมพ์ Offset ให้ความแม่นยำสูงกว่า ทำให้สามารถทำงานหลังพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีปัญหาเรื่องความคลาดเคลื่อน (สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่องนี้ได้ใน Printing 101: ข้อควรระวังกับงานพิมพ์ที่ดีไซน์มีขอบหรือกรอบบังคับ )
ตัวอย่างงานที่พิมพ์ในระบบ Digital และนำไปปั๊มฟอยล์ บางครั้งอาจเกิดปัญหาฉากไม่ตรง ทำให้ตำแหน่งปั๊มฟอยล์ผิดพลาดได้ตามรูป
6. ความแม่นยำของค่าสี การพิมพ์ Digital สามารถพิมพ์ได้สีสันสวยงามใกล้เคียง Offset มากขึ้นในปัจจุบัน แต่ยังไม่สามารถพิมพ์ตามสี Pantone ได้ ในขณะที่งานพิมพ์ Offset สามารถเลือกสี Pantone ที่ต้องการพิมพ์ได้ในทุกเฉดสี หรือแม้แต่สามารถพิมพ์สีตามตัวอย่างจริงได้เลย
รูปแบบเม็ดสีของ Offset แน่นและแม่นยำกว่า Digital เมื่อวางเทียบกัน
งานพิมพ์ตามสี Pantone สามารถทำได้เฉพาะงานพิมพ์ Offset เท่านั้น
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีการพิมพ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณ และเพื่อให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูตารางสรุปเปรียบเทียบคุณสมบัติสำคัญของการพิมพ์ทั้งสองแบบกัน
สรุป การเลือกระหว่างการพิมพ์แบบ Digital และ Offset ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละงาน หากคุณต้องการงานที่มีความคงทนสูง มีคุณภาพสีที่สม่ำเสมอ และต้องการทำงานหลังพิมพ์ที่ซับซ้อน การพิมพ์แบบ Offset อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่หากคุณต้องการความรวดเร็ว ความยืดหยุ่นในการผลิตจำนวนน้อย หรือต้องการงานที่มีผิวสัมผัสมันเงา การพิมพ์แบบ Digital ก็อาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีการพิมพ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณ
RPP Team